หน้าแรก    • ธนาคารกลาง  • ห้องแช็ท  • วิทยุออนไลน์  • ช่วยเหลือ  • ค้นหา  • เข้าสู่ระบบ  • สมัครสมาชิก  

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ตอนที่ 1 บ้านและครอบครัวอันแสนอบอุ่น (ตอนต้น)  (อ่าน 5664 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ว่างเปล่า...

ทร่ามกลางหมู่ดาวมากมาย มีเพียงดาวดวงเดียวที่ส่องสว่าง นั้นก็คือ...เธอ

ฉันอยากไปยังที่แห่งหนึ่ง

หญิง Thailand
 184
 101
 100



Windows XP MS Internet Explorer 8.0
« เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2553, 10:06:13 AM »

ตอนที่ 1 บ้านและครอบครัวอันแสนอบอุ่น (ตอนต้น)


          เมื่อดวงจันทรา ดวงดารา ผู้ฉายแสงยามค่ำคืนค่อยๆ เลือนหายจากฟากฟ้าราตรี ดวงอาทิตย์ค่อยๆ โผล่
จากขอบฟ้า พร้อมกับเปล่งแสงสีทอง ท่วงทำนองของวันใหม่ได้เริ่มบรรเลงขึ้น เสียงวิหกนานาชนิดขับร้องตาม
หมู่แมกไม้ บ้างก็ออกมาโผผินบินเย้าหยอกกับสายลม แสงแดดในยามเช้าสาดส่องไปทั่วทุกถิ่น ไม่เว้นแม้แต่
บ้านหลังนี้ ซึ่งตั้งอยู่ ณ มุมใดมุมหนึ่งของมหานครเฟียราเพลล่า

          หญิงท่าทางมีอายุคนหนึ่ง กำลังทำอาหารเช้าอยู่ภายในครัว เธอทำเช่นนี้ทุกๆ เช้าเสมอมา และเธอไม่เคย
เบื่อหน่ายมันแม้แต่น้อย แต่เธอกลับมีความสุขกับมัน    

          ตึก ตึก ตึก เสียงเดินลงจากบันไดดังเป็นระยะ บันไดนั้นอยู่ไม่ไกลจากห้องครัวมากนัก ไม่นานเสียงนั้น
ก็หยุดลง แปรเปลี่ยนเป็นเสียงสาวเท้า และมันบ่งบอกว่ามีคนกำลังจะมายั่งห้องครัวนี้ ใกล้เข้ามาทุกที ทุกที

          "อรุณสวัสดิ์ค่ะ ป้าเนป วันนี้ทำอะไรน้า...กลิ่นหอมหวลชวนหิวลอยไปถึงข้างบนเชียวค่ะ" มันเป็นเสียง
ทักทายยามเช้าที่ป้าเนปได้ยินทุกวี่วัน เสียงที่อ่อนหวานของหญิงสาวที่ตอนนี้โอบกอดเอวของเธออยู่ และแน่นอนว่า
หญิงสาวคนนี้เป็นหลานสาวเพียงคนเดียวของเธอ ที่เธอรัก และดูแลเอาใจใส่ตั้งแต่ยังแบเบาะ

          ป้าเนปยิ้มละมุนก่อนจะตอบหลานแสนรัก "ซุปครีมเห็ด กับขนมปังรำข้าวจ๊ะหลานรัก"

          "ว้าว...น่าทานจังเลยค่ะ เอ...แล้วลุงซิกหละค่ะป้าเนป" หลานสาวมองซ้ายมองขวาก่อนจะเอียงคอไปทางขวา
จนตนเองสามารถมองเห็นใบหน้าผู้เป็นป้า เพื่อรอคำตอบ แต่ยังไม่ทันที่ป้าเนปจะตอบอะไร ก็มีเสียงบางสิ่งบางอย่าง
ดังมาจากหน้าบ้าน ทำให้หลานสาวเอ่ยปากออกมาว่าจะอาสาไปดูให้เองว่า เกิดอะไรขึ้น

          เมื่อหลานสาวเปิดประตูออกมา แลเห็นผู้เป็นลุงซึ่งกำลังดูอาการของเจ้าเมเทโอ ที่กำลังร้องด้วยความเจ็บปวด
เธอรีบวิ่งออกไปในทันทีที่เห็นภาพตรงหน้า โดยมิได้เอ่ยถามอะไร เธอก้มมองดูเจ้าเมเทโออย่างเป็นห่วง แล้วเธอ
ก็ได้รู้ว่า ขาของเจ้าเมเทโอได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสอยู่ไม่น้อย มันเป็นบาดแผลของการถูกกัปดักของนักล่าสัตว์
เธอมองดูมันด้วยท่าทางเป็นกังวล เหงื่อซึมออกมาอย่างเห็นได้ชัด ดวงตาเหมือนพลอยจะเจ็บปวดไปกับมันด้วย

          เมื่อลุงซิกเห็นทีท่าว่าหลานสาวของตนท่าทางไม่ค่อยสู้ดีเช่นกัน จึงกล่าวกับเธอ

          "อย่าวิตกเลยหลานลุง หลานไปเรียกป้าเนปของหลานมาเถิด ป้าของหลานจะต้องช่วยเจ้าเมเทโอให้หายดี
อย่างแน่นอน"

          เมื่อผู้เป็นหลานได้ยินดังนั้น ก็พลันพยักหน้าตอบ ก่อนจะเงยหน้า และหันเข้าหาตัวบ้านวิ่งไปเปิดประตู และ
ตะโกนในฉับพลัน "ป้าเนป...ป้าเนปค่ะ..."

          วิ้ง วิ้ง วิ้ง เสียงคลื่นพลังเวทย์ เวทย์แห่งการรักษาของป้าเนป ที่ดังมาจากฝ่ามือของป้า เป็นระยะ ระยะ เวลา
ผ่านไปไม่นานนักบาดแผลของเจ้าเมเทโอก็ค่อยๆ สมานตัวอย่างช้าๆ จนกระทั่งบาดแผลปิดสนิท เจ้าเมเทโอมันมิได้
ร้องอย่างเจ็บปวดอีกแล้ว แต่กลับเอาจมูกยื่นๆ ยาวๆ ของมัน มาเคล้าเคลียที่แก้มของป้าเนป เสมือนหนึ่งคำขอบคุณ
จากมัน ทำให้คนทั้ง 3 หัวเราะออกมาพร้อมๆ กัน

          และในที่สุด เจ้าเมเทโอก็สามารถยืนได้อีกครั้ง ลุงซิกจึงพามันไปยั่งคอกของมัน ซึ่งอยู่ทางขวาของบ้าน ส่วน
ป้าเนป กับหลานรัก ต่างก็จูงมือกันเข้าบ้านพร้อมรอยยิ้มที่ผลิบานอยู่บนใบหน้า การจัดโต๊ะอาหารมื้อเช้าจึงเป็นอัน
ได้ฤกษ์เสียที เหลือก็แต่รอลุงซิกเพื่อมารับประทานอาหารเช้าร่วมกันอย่างพร้อมหน้า และสนทนากันตามประสา
ครอบครัวอันแสนอบอุ่น พอๆ กับแสงแดดในยามเช้าวันนี้

          "ฮ่า....อิ่มจัง ตังค์อยู่ครบ ฝีมือการทำอาหารของป้าเนปนี่ ไม่เคยตกเลยจริงๆ"

          "หือ...อ้าว! สวัสดีค่ะท่านผู้อ่าน มาอ่านเงียบๆ ไม่ทักทายกันเลยนะคะเนี่ย อะไรนะคะ ชื่อของฉันเหรอ อ้อ!
จริงสิ ยังไม่ได้แนะนำตัวกันเลยนี่นาเนอะ ฉันชื่อ ลูน่า ไลท์ ค่ะ เรียกสั้นๆ ว่าลูน่า ก็ได้ค่ะ แล้วคุณผู้อ่านชื่ออะไร
กันบ้างเอ่ย..."

          "ประวัติของลูน่าเหรอค่ะ ถ้าถามถึงประวัติของฉันละก็ บอกก่อนเลยว่าฉันไม่ใช่มนุษย์ค่ะ และก็ไม่ใช่ปีศาจด้วย
ความแตกต่างของฉันกับมนุษย์ที่สังเกตุได้ง่ายๆ คือ ฉันมีใบหูที่ไม่เหมือนกับมนุษย์ เป็นอีกเผ่าพันธ์ที่มีความสามารถ
ทางด้านที่มนุษย์ไม่มี และไม่มีความสามารถในด้านที่มนุษย์มีเช่นกัน  ตั้งแต่จำความได้ฉันก็อาศัยอยู่กับลุงซิก และ
ป้าเนปแล้วหละคะ คุณพ่อ คุณแม่เหรอค่ะ คุณพ่อกับคุณแม่ฉันไม่มีหรอกค่ะ ฉันเป็นเด็กกำ...พร้า"

          สีหน้าเศร้าอย่างเห็นได้ชัด เหมือนจะมีหยดน้ำปริ่มๆ ที่ปลายตา แต่ก็มิได้ไหลหลั่งลงมา

          "ฉันเคยถามลุงกับป้าว่า คุณพ่อ คุณแม่ของฉันท่านอยู่ที่ไหน แต่สิ่งที่ตอบกลับมา คือสีหน้าที่เศร้ามากของลุง
กับป้า พร้อมกับถ่อยคำแผ่วเบาที่เหมือนจะลอยมากับลมเอื่อยๆ ว่า...คุณพ่อคุณแม่ของหลาน ท่านสิ้นใจไปตั้งแต่หลาน
ยังไม่ลืมตาดูโลก แต่หลานยังมีลุงกับป้านะ ลุงกับป้าจะไม่มีวันทอดทิ้งหลานอย่างแน่นอน...หลานรัก จงเติบโต และ
เข้มแข็ง จงยืนหยัดอย่างเด็ดเดี่ยว จงร่าเริง และสดใส เหมือนเฉกเช่นแสงจันทร์ที่สาดส่องแม้ยามค่ำคืนที่มืดมิด"  

          "ด้วยเหตุนี้เองฉันถึงมีวันนี้ เพราะลุงซิก และป้าเนป ท่านทั้งสองช่างดีเสียเหลือเกิน ฉันจึงมีความสุขมาได้ถึง
ทุกวันนี้ การเรียนเหรอค่ะ พูดถึงการเรียนฉันเพิ่งสอบเสร็จ และปิดเทอมเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ ใช่มันเป็นการสอบที่
ไม่ค่อยจะหวานหอมนัก ใครเล่าจะชอบการสอบจริงไหมค่ะ อีกอย่างฉันเรียนจบการศึกษาวิชาขั้นพื้นฐานของศาสตร์แห่ง
เวทย์เบื้องต้นแล้วค่ะ อิอิ ตอนนี้ก็เลยมาเอ้อระเหยลอยชายได้แบบนี้ไงค่ะ"

          "หืม...เรียนต่อเหรอค่ะ อืม....อยากค่ะ ฉันอยากเรียนศาสตร์แห่งเวทย์ขั้นสองต่อ แต่ศาสตร์แห่งเวทย์ขั้นสองนี้
จำต้องเลือกแขนง และเลือกธาตุเวทย์ที่ตนชอบ หรือถนัดด้วยค่ะ ถามว่าธาตุเวทย์ที่ฉันชอบ และถนัดคืออะไรเหรอค่ะ
ไม่บอกค่ะอุบไว้ก่อน อิอิ ลองเดากันดูหน่อยไหมหละคะ ฉันมั่นใจว่าต้องมีท่านผู้อ่านหลายคนตอบถูกค่ะ ประวัติของฉัน
ก็มีประมาณนี้แหละค่ะ"

          "ว่าแต่...อยากเข้าไปเดินเล่นในป่ากับฉันไหมค่ะ มาค่ะฉันจะนำทางไป อันตรายเหรอ...ไม่ ไม่ค่ะ มันปลอดภัยค่ะ
ที่ ๆ ฉันไปประจำไม่มีสัตว์ร้าย หรือสัตว์ประหลาดแน่นอนค่ะ ลูน่าคนนี้ขอรับประกันค่ะ ถ้าอย่างนั้นก็ เอ้า!..ออกเดินทาง
กันโลด"

          "วู้ว...ลมเย็นดีจัง ทุกท่านคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า ที่แห่งนี้คือ มหานครเฟียราเพลล่า อ่ะ....ต้องมีท่านผู้อ่านบางคน
แอบคิดในใจว่า ฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย มันเป็นยังไงกันแน่เจ้านครเฟียราเพลล่าอะไรเนี่ย ใช่ไหมหละคะ ให้ผู้เขียนเป็นคน
บอกน่าจะดีกว่าน้า...รับช่วงต่อทีค่ะ ลูน่าจะขอแอบงีบพักสักครู่หนึ่ง ชมนก ชมไม้ไปเรื่อย เรื่อย.....................ฟี้"

          อ้าว หลับไปเสียแล้ว ลูน่า ลูน่า! เอาเป็นว่ามาทำความรู้จักกับ นครเฟียราเพลล่ากันก่อนเลยแล้วกัน อันดับแรก
หากท่านผู้อ่านเข้าใจว่า มหานครเฟียราเพลล่านี้ เป็นมหานครเพียงหนึ่งเดียวในเรื่องนี้หละก็ ขอบอกว่าคุณคิดผิดแล้ว
เพราะมหานครเฟียราเพลล่าแห่งนี้ ดำรงอยู่ภายในโลกที่ชื่อว่า ชาริสม่า เป็นโลกคู่ขนานกับโลกของเราในปัจจุบัน และโลก
ชาริสม่าแห่งนี้ มิได้มีเพียงมหานครเพียงแห่งเดียว แต่มีด้วยกันถึง 7 มหานคร ซึ่งเมื่อตัดมหานครเฟียราเพลล่าไป ก็จะเหลือ
อีก 6 มหานคร อันจะประกอบไปด้วย
 
          1)  มหานครเฮริโอโปรัส อันเป็นมหานครของดินแดนเผ่ามนุษย์


          2)  มหานครคอลลิดูล่า อันเป็นมหานครเผ่าดาร์คเอลฟ์


          3)  มหานครอพาทุร่า อันเป็นมหานครเผ่าคนแคละ

 

          4)  มหานครสปินดาซิส อันเป็นมหานครปริศนา


          5)  มหานครเนริสซ่า อันเป็นมหานครเหนือสมุทรของเผ่าเงือก


          6)  และมหานครแห่งสุดท้าย ที่ๆ ไม่มีใครต้องการพูดถึงมัน มหานครธาทารัส มหานครของชนเผ่ามาร


          เอาหละ...ได้เวลาตื่นจากนิทราแล้ว ลูน่า ถึงเวลาแล้วที่เธอจะต้องพบกับประสบการณ์ชีวิตใหม่ๆ เวลานั้นใกล้เข้ามา
เต็มทีแล้ว  

          "ฮ้าว.......ต้องตื่นแล้วสิเรา ได้เวลาต้องกลับบ้านแล้ว ก่อนจะโดนป้าเนปตีก้น" เมื่อพูดจบเธอก็ลุกปัดใบไม้ที่ติดอยู่
บนเสื้อผ้าเล็กน้อย ก่อนจะออกเดิน เพื่อตรงไปยังบ้านของตนเอง

          ตัดตอนมายังบ้านหลังเดิม

          ที่หน้าบ้านมีบุรุษผู้หนึ่งแต่งตัวในเครื่องแบบอัศวินเต็มยศ อัศวินผู้นั้นเอื้อมมือไปสั่นกระดิ่งที่แขวนอยู่ไม่สูงมากนัก
กริ้ง กริ้ง กริ้ง กริ้ง เสียงกระดิ่งดังจนผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านขานรับ และเปิดประตูบ้านเพื่อหวังจะรับรู้ว่า ใครกันที่มาสั่นกระดิ่ง
ที่อยู่หน้าบ้านของตน

          "มีธุระอันใดหรือค่ะท่าน..."

          เมื่อป้าเนปเปิดประตู สายตาของป้าเนปได้มองเห็น หนุ่มในเครื่องแบบอัศวิน ป้าเนปก็เป็นอันต้องชะงักไปชั่วครู่หนึ่ง
(ไม่ใช่เพราะความหล่อนะ อย่าเพิ่งเข้าใจผิด หุหุ)

          "มะ...มีอะไรเหรอค่ะท่าน" ป้าเนปถามอีกครั้งด้วยเสียงสั่นเทาเล็กน้อย

          "ขออภัยที่ต้องมารบกวนในยามนี้ นี่คือจดหมายประทับตราจากทางราชสำนัก ซึ่งข้าได้รับมอบหมายหน้าที่ให้มา
ส่งถึง....."

          อัศวินพูดยืดยาว รายงานอย่างเป็นทางการ แต่ขณะนั้นป้าเนป ไม่อาจรับฟังอะไรนอกจากชื่อผู้รับจดหมาย
ที่จดหมายนั้นส่งถึง มันเป็นชื่อของหลานสาวของเธอ และเป็นไปไม่ได้เลยที่มันจะเป็นเรื่องปกติธรรมดา หญิงสาวชาวบ้าน
ที่ไม่เคยเหยียบย่างเข้าเขตพระราชวังมาก่อน

          นั่นเป็นลางบอกเหตุว่า ทุกๆ อย่างที่เคยดำเนินไป การดำรงชีวิตแบบเดิมๆ การอยู่ด้วยกัน 3 คนพร้อมหน้าพร้อมตา
อาจจะต้องสิ้นสุดลงในไม่ช้านี้ นี่คือสิ่งที่ป้าเนปคิดวิตกภายในจิตใจมาโดยตลอด หวาดกลัวว่าสักวันหนึ่ง มันจะมาถึง และมัน
ก็มาถึงจริงๆ วันที่เธอ และหลานสาวจะต้องแยกจากกัน


---------------------------จบตอนที่ 1 (ตอนต้น)---------------------------

ตามจริงแล้วตอนที่ 1 ออกจะค่อนข้างยาว ผู้เขียนเลยดำเนินการแบ่งเป็น 3 Shot ต่อนิยาย 1 ตอน

เพื่อป้องกันท่านผู้อ่านเกิดอาการอิสเอน เลบานอน และสุดท้ายอาจจะถึงขั้นไปเยือนถึงที่อาหลับ

บวกกับว่า ผู้เขียนกลัวว่าตัวหนังสือมันจะเยอะเสียจนทำให้ท่านผู้อ่านตาลาย

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้อ่านจะรู้สึกสนุกสนาน และเพลิดเพลินไปกับการอ่านนิยายเรื่องนี้ค่ะ

และสุดท้าย ท้ายสุด ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน ขอบคุณมากคร๊า~

ปล. ติ ชม แสดงความคิดเห็นได้นะคะ ท่านผู้อ่าน

และที่จะลืมขอบคุณไปเสียไม่ได้ก็คือ ภาพสวยๆ เท่ๆ จากเกม Rohan ที่ทำให้มีภาพนำมาประกอบนิยายนี้

ขอบคุณอย่างมากเลยค่ะ และต้องขออภัยที่ทำการดัดแปลงบางอย่างในภาพด้วย

---------------------------จากใจ ผู้เขียน---------------------------
  
 







บันทึกการเข้า

.:: !- Administrator -! ::.

ซุ่มยิง

Thailand
 2669
 855
 1196



Windows XP Firefox 3.6.12
« ตอบ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2553, 01:22:41 AM »

สู้ๆนะ อย่าเพิ่งท้อสะก่อนละ
ยังไงก็มีคนอ่านอยู่







บันทึกการเข้า



หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.13 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC | Sitemap Valid XHTML 1.0! Valid CSS!


Google visited last this page มิถุนายน 25, 2566, 08:02:37 AM