:: Mayonnaise-Club V.2 :: แล้วเราจะก้าวไปด้วยกัน

.:: Relax Club ::. => Lunalight Of Fiarapella => ข้อความที่เริ่มโดย: •♫♪มู๋nsะต่าe♫♪• ที่ มีนาคม 03, 2554, 01:00:09 PM



หัวข้อ: ตอนที่ 8 ช่วงลองของ [ใหม่] (ตอนท้าย)
เริ่มหัวข้อโดย: •♫♪มู๋nsะต่าe♫♪• ที่ มีนาคม 03, 2554, 01:00:09 PM

ตอนที่ 8 ช่วงลองของ [ใหม่] (ตอนท้าย)


          "แม่เห็นเจ้าเติบโตเช่นนี้ แม่ดีใจนัก แม่เฝ้าคอยวันที่จะมีโอกาสได้มาพบกับเจ้าเช่นนี้ ลูกรักของแม่" องค์ราชินีตรัสแก่บุตรีของตน

          "ทะ...ท่านแม่ ท่านอยู่ที่ไหนกันค่ะ ข้าอยากพบท่าน แต่ก็ไม่รู้ว่าท่านยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ข้ากลัวว่าท่านจะ..."

          อาร์ดิสหยุดกล่าว เพราะบัดนี้ ผู้เป็นแม่ของตนยังมีชีวิตอยู่ มันไม่สำคัญอะไรอีกแล้ว ขอเพียงท่านแม่ยังอยู่เท่านั้น

          แต่องค์ราชินีมิได้ตรัสตอบอะไร เพียงแค่ส่งยิ้ม อันอ่อนหวานละมุนละไมให้แก่อาร์ดิสเพียงเท่านั้น

          "เวลาแห่งการพบพานช่างน้อยเสียเหลือเกินลูกของแม่ จงรับสิ่งนี้ต่อจากแม่เถิด..." องค์ราชินียื่นบางอย่างให้อาร์ดิส

          "ทะ...ท่านจะไปไหนท่านแม่ ทั้งๆ ที่เราอุตส่าห์ได้พบกัน ข้าไม่ต้องการสิ่งใด ขอเพียงท่านอยู่กับข้าจากนี้และต่อไป
ท่านพ่อก็จากข้าไปแล้ว ท่านแม่จะจากข้าไปอีกอย่างนั้นหรือ นอกจากป้าเนป และลุงซิกแล้วข้า....ข้าไม่เหลือใครอีกแล้ว"

          อาร์ดิสกล่าว และไม่ยอมปล่อยมือผู้เป็นแม่

          "ลูกมิได้อยู่เพียงลำพัง...มิใช่หรือ" องค์ราชินีกล่าวให้อาร์ดิสลองคิดไตร่ตรองดู

          มันทำให้อาร์ดิสพอจะได้สติกลับคืนมาบ้าง และพลันนึกถึงเฮเรียส เซอเพน รวมไปถึงคอร์วีแดที่อาจจะดูไม่ค่อยคล้าย
เพื่อนสักเท่าไหร่นัก น่าจะเป็นศัตรูเสียมากกว่า

          "คิก แม่เห็นแล้วหละ 3 หนุ่มรูปงามนั่น หนึ่งในนั้นคงจะมีสักคนที่ดูแลเจ้าได้เป็นอย่างดี แค่นี้แม่ก็หมดห่วงในตัวเจ้าแล้ว"

          องค์ราชินีตรัสเหมือนจะรู้อะไรอะไรในแบบที่ผู้ใหญ่รู้ทันเด็ก

          "หะ...หา มะ...ไม่หรอกค่ะ มีแต่พวกลิงจอมซน กอริล่าจอมป่วน และก็จิ้งจอกจอมเจ้าเล่ห์ ไม่เห็นมีใครน่าวางใจสักคนเลยค่ะท่านแม่"

          อาร์ดิสกล่าวทั้งๆ ที่หน้าออกสีแดงระเรื่อ องค์ราชินีผู้เป็นพระมารดาถึงกับพระสรวลออกมาด้วยความเอ็นดู

          "หมดเวลาของแม่แล้ว ลูน่า จากนี้ไปมันเป็นของเจ้าแล้ว" องค์ราชินีตรัสขณะที่ร่างของพระนางเหมือนจะดูจางๆ ลงไป

          "มะ....ไม่ ทะ...ท่านแม่ ข้า..." อาร์ดิสตกใจกับคำพูดสั่งลา อีกทั้งร่างองค์ราชินีที่จางลงนั่น จางเสียจนเหมือนจะหายลับไป

          "จงรับสิ่งนี้ไว้แทนตัวแม่...ลูน่า" องค์ราชินีย้ำอีกครั้ง

          อาร์ดิสรับสิ่งนั้นมา และทันที่ที่รับมันมานั้น ร่างขององค์ราชินีก็ค่อยๆ หายไป

          "ทะ....ท่านแม่....ไม่นะ...ไม่เอา....ข้าอยากให้ท่านอยู่กับข้า...ไม่....ท่านแม่...."

          อาร์ดิสพยายามที่จะไขว่คว้ามือ และร่างขององค์ราชินี ผู้เป็นแม่บังเกิดเกล้า

          แต่อาร์ดิสไม่อาจสัมผัสร่างนั้นได้อีกแล้ว ร่างขององค์ราชินีบัดนี้จางหายไปจนเหลือเพียงละอองแสงที่ปลิวหายไป

          "อย่าเศร้าไปเลย...ลูน่า แม่จะอยู่เคียงข้างเจ้าเสมอ" นั่นคือคำสุดท้ายที่อาร์ดิสได้ยินจากปากขององค์ราชินี

          วั๊บ!!~ แสงสว่างจ้านั้นดับวูบลง พร้อมๆ กับการกลับมาสู่ห้องๆ เดิมของอาร์ดิส

          มหาเวทย์เซอุส และทั้ง 3 คนต่างมองไปทางอาร์ดิสพร้อมๆ กัน อย่างใคร่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

          ' ไม่จริง...เป็นไปไม่ได้ ' มหาเวทย์อุทานอย่างตะลึงงัน กับภาพที่ได้เห็น

          ภาพนั้นคือ อาร์ดิสที่กำลังถืออาวุธอยู่ในมือ อาวุธของอาร์ดิสนั้นคือไม้คฑา ที่มีความสวยงามมาก แต่มันต้องไม่ใช่
ไม้คฑาธรรมดาอย่างแน่นอน ในเมื่อทำให้มหาเวทย์ตกใจถึงขนาดนั้น

          "ของอาร์ดิสเป็นไม้คฑาอย่างนั้นเหรอ...จุ๊ จุ๊ ไม่เบานี่ เอ่อ...ท่านมหาเวทย์ครับ นั่นไม้คฑาอะไรเหรอครับ
ใช่หนึ่งในเจ็ดของเซเว่นลอร์ดหรือเปล่าครับนั่น" เซอเพนเป็นคนแรกที่เอ่ยปากแทรกกลางความเงียบ

          ...........เงียบกริบ......ไม่มีคำตอบหลุดออกมาจากปากของมหาเวทย์ ทั้งๆ ที่อีก 3 คน อยากจะรู้เสียเหลือเกินว่า
สิ่งที่อาร์ดิสถืออยู่นั่นคือคฑาอะไร และเป็นหนึ่งในเจ็ดเซเว่นลอร์ดหรือไม่

          หึหึ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ......จู่ๆ มหาเวทย์ก็กลับหัวเราะออกมา ทำเอาทั้ง 3 ตกอยู่ในอาการมึนงง เป็นอย่างมาก

          ' อย่างนี้เองเหรอ เล่นกันอย่างนี้เลยเหรอ....องค์ราชินี ' มหาเวทย์กล่าวในใจ

          "สิ่งที่อาร์ดิสถืออยู่นั่นคือ เซเลเน่ เทพแห่งแสง หรือเทพแห่งดวงจันทร์ และอยู่ในเซเว่นลอร์ดอย่างที่เจ้าคิดนั่นแหละ"

          ท่านมหาเวทย์คงคิดได้ว่า นั่นเป็นส่วนหนึ่งที่องค์ราชินีมีส่วนร่วม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มันก็ต้องขึ้นอยู่กับเซเลเน่ด้วยว่า
ยอมรับในตัวอาร์ดิสหรือไม่ และดูเหมือนว่ามันจะยอมรับอาร์ดิสอย่างไม่ขัดข้องแต่ประการใด อย่างว่าแหละลูกมักจะไม่ต่างจากแม่มากนัก
(แต่บางคนก็อาจจะเหมือนพ่อมากกว่าหนะนะ กิกิ) ในเมื่อสายเลือดเดียวกันไหลเวียนอยู่ในร่างกาย แม้ว่าจะไม่ใช่ร่างกายเดียวกันก็ตาม

          เซอเพนรีบเข้าไปแสดงความยินดีกะเพื่อนที่ยืนแน่นิ่ง และไม่มีทีท่าว่าจะขยับ

          "เฮ้...อาร์ดิส คฑาของเจ้าก็เท่ไม่เบาเลยนะ ฮ่ะ ฮ่ะ" เซอเพนกล่าวพลางจะกอดคออาร์ดิส

          แต่แล้วเฮเรียสก็มาจับแขนของเซอเพน เพื่อหยุดการกระทำดังกล่าว

          "คิดจะทำอะไรไม่ทราบเจ้าเกย์...." เฮเรียสว่าเซอเพนเข้าให้

          "อะ...อะไรกันเล่า ข้าไปเป็นเกย์เมื่อไหร่ แค่กอดคอกันแบบเพื่อน เพื่อนอ่ะ...เข้าใจม๊าย....." เซอเพนแย้งสุดเสียง

          "เหรอ..." เฮเรียสตอบสั้นๆ แบบกวนโอ้ยเต็มที่

          "เจ้า...เจ้านี่มัน กวนประสาทจริงๆ เฮเรียส ข้าเข้าใจความรู้สึกของอาร์ดิสแล้วว่ารู้สึกยังไง เจ้าก็คิดเหมือนข้าใช่ไหมอาร์ดิส...อาร์ดิส"  

          เซอเพนกะจะให้อาร์ดิสเสริม

          แต่ปรากฎว่า อาร์ดิสไม่ได้ตอบอะไร ไม่ขยับแม้แต่นิด เห็นแต่ยืนก้มหน้าอยู่อย่างนี้ตั้งแต่แสงสว่างจ้านั่นดับไป

          "อาร์ดิส...อาร์ดิส เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า" เฮเรียสชักรู้สึกว่าอาร์ดิสไม่เหมือนปกติ

          "ปะ...เปล่า ข้าไม่ได้เป็นอะไร แค่แสบตาเท่านั้นเอง" เสียงอาร์ดิสสั่นเครือ

          และเมื่ออาร์ดิสเงยหน้าขึ้นมา ทุกคนต่างมองหน้าอาร์ดิส เหมือนจะถามว่า...ไม่เป็นอะไรแน่นะ

          "ขะ...ข้าไม่เป็นอะไรจริงๆ ดูทำหน้าเข้าสิ เอ๋อเชียว ฮ่ะฮ่ะ" อาร์ดิสพูดจาล้อเลียนทุกคน

          "เจ้านี่ ทำเอาตกใจหมด นึกว่าผีเข้าเสียแล้ว ยืนเป็นผีผมปรกหน้าไปได้" เซอเพนกล่าว

          "ถ้าข้าเป็นผี ข้าจะหลอกเจ้าคนแรกเลยเซอเพน ดีไหม ฮ่ะ ฮ่ะ" อาร์ดิสหยอกต่อ

          "เฮ้ย เฮ้ย ไม่ต้องเลยโว้ย ข้ามีของดีขอบอก นี่ๆ คนไทยมีจตุคามชะมะ ของข้านี่เลยเด็ดกว่า"

          เซอเพนพูดแล้วหยิบเอาสร้อยคอของดีของตนออกมา

          คอร์วีแดสนใจกับของดีของเซอเพนเลยเดินเข้ามาดู ไม่เว้นแม้แต่มหาเวทย์ก็เอากะเขาด้วย (ไทยมุงนี่หว่า)

          "อะไร อะไรของเจ้าหนะนั่น" เฮเรียสผสมโรงด้วย

          "ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ข้าเจอมันมาที่ใต้ต้นไม้ในป่าอ่ะ" เซอเพนกล่าวตอบ

          "หะ...หา!!" ทุกคนร้องเป็นเสียงเดียวกัน

          "ข้าว่า มันคุ้นๆ นะ เหมือน..." อาร์ดิสครุ่นคิดไปกล่าวไป

          "เหมือนอะไร เจ้าก็ว่ามาสิ อ้ำอึ้งอยู่ได้" เซอเพนถาม

          "เหมือน.....เหมือน....ตลับยาขัดรองเท้า(กีวี)หนะ" อาร์ดิสคิดออกเมื่อมองดูใกล้ๆ ชัดๆ

          "อะไรนะ!...ยาขัดรองเท้า..." เซอเพนตะโกนซะลั่น

          ....ทุกคนเงียบกริบ แต่แล้วก็ต้องขำกันออกมา ในเมื่อเซอเพนมันบ้าเข้าขั้น ถึงขนาดเอายาขัดรองเท้ามาห้อยไว้ที่คอเป็นของดีของขลัง

          ขณะที่เซอเพนกำลังจะหาวิธีถอดยาขัดรองเท้าออกจากคอ เฮเรียสที่หัวเราะไม่หยุดก็หันมาทางอาร์ดิส ซึ่งก็หัวเราะอยู่ไม่ต่างกัน    

          "อาร์ดิส....ดูมันเหมาะกับเจ้านะ ชื่อของเจ้าก็แปลว่าเทพแห่งดวงจันทร์เหมือนกัน" เฮเรียสพูดออกมาอย่างนั้น

          "ขะ...ขอบใจ" อาร์ดิสออกจะงงๆ เฮเรียสดูจะแปลกผิดจากทุกทีหรือเปล่านะ

          "เฮ้ย ซวยแล้วแกะไม่ออก เวรเอ้ย...." เสียงเซอเพนที่กำลังต่อสู้กับยาขัดรองเท้าที่คอของตน โวยวายไม่หยุด

          "ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ เซอเพนเจ้านี่ เป็นคนที่ฮามากเลยนะ ข้าหละยอมแพ้เลยจริงๆ" มหาเวทย์ถึงกับเอ่ยชม

          "โธ่ ท่านมหาเวทย์ก็เป็นไปกับเขาด้วยเหรอ อ๊าก...อับอายเป็นบ้า" เซอเพนแทบจะคลั่งตายอยู่ตรงนั้น

          ทุกคนต่างหัวเราะกันไม่หยุด คอร์วีแดนี่ถ้าลงไปกลิ้งได้ก็คงอยากทำอยู่

          เฮเรียส ที่เห็นอาร์ดิสหัวเราะเซอเพนอยู่นั้น กลับรู้สึกไปในทางตรงกันข้าม

          ' อาร์ดิส ข้าไม่รู้หรอกว่าเจ้าไปพบประสบอะไรมา ขณะที่เรียกอาวุธนั่น แต่มันคงจะเป็นเรื่องทำใจได้ยากสินะ
เจ้าถึงกับต้องปกปิดความเศร้าเอาไว้ แม้ว่าผู้อื่นจะไม่เห็นมัน แต่ข้าเห็นนะ...หยดน้ำตาในตาของเจ้า แม้ว่ามันจะแค่ชั่วครู่ก็ตาม
แต่ข้าก็ยังหวังว่าเจ้าจะเอ่ยปากเล่าให้ข้าฟัง ข้าหวังจะเป็นที่พึ่งให้เจ้า เพราะในเวลาที่ข้าทุกข์ ตัวข้าเองก็ต้องการคนที่จะมาอยู่เคียงข้างข้า
อย่างน้อยก็นั่งเป็นเพื่อนข้าในยามที่ข้าต้องการ ข้าคิดว่าเจ้าก็คงเช่นกัน '

          ระหว่างนั้นมหาเวทย์นึกขึ้นมาได้ถึงโปรแกรมของวันพรุ่งนี้

          "เอาหละ นี่ถือเป็นโอกาสดีของพวกเจ้านะ เพราะว่าวันพรุ่งนี้จะมีการแข่งขันกันระหว่างหอ เพื่อชิงรางวัลให้แก่หอของตนเอง
กลับไปฝึกฝนซะหละ"

          มหาเวทย์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกได้คำเดียวว่า เรื่องมันๆ และเรื่องน่าสนใจ กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว

          "จริงเหรอครับ ท่านมหาเวทย์" เซอเพนกล่าวทันที แบบไม่รีรอ

          "งั้นสิ...ข้าจะไปโกหกทำไมเรื่องพรรค์นี้" มหาเวทย์นี่ดูคึกคักไม่แพ้เซอเพนเลย

          "งั้นเหรอ....หึหึ ดีสิครับ ผมจะได้ลองของใหม่ ในช่วงลองของนี่เสียเลย หึหึ ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ...."

          เซอเพนกล่าวแบบทำเสียงมีเล่ห์นัย (แอบโรคจิตหรือเปล่าเนี่ย)

          "เพลาๆ มือกันหน่อยหละ อาวุธธรรมดาหนะสู้อาวุธของพวกเจ้าไม่ได้หรอก....อืม....แต่มันก็ไม่แน่หรอกนะ
ถ้าผู้ครอบครองมีของดี แต่ไม่มีคำว่าฝึกฝน หรือเรียนรู้เพิ่มเติม อาวุธมันก็จะกลายเป็นแค่เศษเหล็กธรรมดา ธรรมดาเท่านั้น
เพราะฉะนั้น จงอย่าหยุดเรียนรู้จำไว้"

          มหาเวทย์กล่าวเชิงให้คำแนะนำสั่งสอนอย่างสมกับเป็นอาจารย์

          "ครับ/คร๊าบ" ทั้ง 4 ต่างกล่าวพร้อมกัน เพื่อขานรับคำสั่งสอนของมหาเวทย์ผู้เป็นดั่งอาจารย์

          ' ข้ามิได้อยู่เพียงลำพัง ข้ามีลุงซิก ข้ามีป้าเนป ข้ามีท่านพ่อ ข้ามีท่านแม่ และข้ามีเพื่อนๆ ข้าจะเดินหน้าต่อไป แม้ว่าพวกท่าน
จะไม่อยู่ข้างกายข้า แต่ท่านจะอยู่ในใจของข้า....ท่านพ่อ....ท่านแม่ '

          อาร์ดิสเลือกที่จะเก็บหยาดน้ำตาเอาไว้ แล้วมุ่งหน้าต่อไป ทำในสิ่งที่ตนเองสามารถจะทำได้ นั่นหละคือสิ่งเดียวที่เขาจะทำได้ในตอนนี้

          "สู้โว้ย!!...." เซอเพนตะโกนลั่นห้อง ในท่าชูมือที่ถือโซเบคขึ้นเหนือศีรษะ

          พวกเขาจะต้องกลับไปฝึกฝนตนเองให้คุ้นเคยกับอาวุธชิ้นใหม่นี้ให้มากขึ้นไปอีก เพราะผู้ที่สามารถสื่อถึงกันกับอาวุธได้ดีที่สุด
ผู้นั้นก็มีชัยไปกว่าครึ่ง

          สงครามระหว่างหอกำลังรอนับถอยหลังเข้ามาทุกทีแล้ว...




---------------------------จบตอนที่ 8---------------------------

จบตอนที่ 8 แล้วเน้อ มาร่วมลุ้นศึกระหว่างหอไปพร้อมๆ กับพวกเขาได้ในตอนต่อไปนะจ๊ะ

---------------------------จากใจผู้เขียน---------------------------